นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.)

๑. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

สำนักงาน ป.ป.ส. จะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะใช้วิธีการที่ ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม จัดเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ หรือกรอบภารกิจในการดำเนินงานของ สำนักงาน ป.ป.ส. หรือ ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น และสำนักงาน ป.ป.ส. จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วน บุคคล ก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา ๒๔ หรือมาตรา ๒๖ แห่ง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ หรือในกรณีอื่น ๆ ตามที่กำหนดไว้ในแนวนโยบายนี้

๑. เพื่อความสะดวกในการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่เข้ามาใช้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ป.ป.ส. ทางเว็บไซต์จะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ได้แก่ หมายเลขไอพี (IP Address) หรือ ตามที่ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนด

๒. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงาน ป.ป.ส. เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ในช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ ขั้นตอนการสมัครสมาชิก สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจ การลงทะเบียน เข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนา การลงทะเบียนเพื่อใช้งานระบบสารสนเทศ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ติดต่อสื่อสารกับสำนักงาน ป.ป.ส. ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยสำนักงาน ป.ป.ส.

๓. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงาน ป.ป.ส. เก็บรวบรวมตามวัตถุประสงค์และภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ส. ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

๒. คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงาน ป.ป.ส. มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ในการดำเนินงานตามภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ส. ระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กับสำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งเป็นไป ตามอำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ส. ตามที่กฎหมายกำหนด โดยข้อมูลที่ได้ทำ การจัดเก็บนั้น สำนักงาน ป.ป.ส. จะคำนึงถึงความถูกต้อง ครบถ้วน และความเป็นปัจจุบันของข้อมูล

๓. วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงาน ป.ป.ส. มีการรวบรวม จัดเก็บ และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ส. ภายใต้ขอบเขต ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากภายหลังสำนักงาน ป.ป.ส. มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการรวบรวมและ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ และสำนักงาน ป.ป.ส. จะทำการบันทึก การแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐานด้วย

๔. ข้อจำกัดในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้

สำนักงาน ป.ป.ส. จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจาก วัตถุประสงค์ในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือเป็นกรณีที่มีกฎหมาย กำหนดให้กระทำได้

๕. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

๕.๑ สำนักงาน ป.ป.ส. มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างความตระหนักในความรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล ตามนโยบายและ แนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ สำนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไข หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต

๕.๒ สำนักงาน ป.ป.ส. มีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์ หรือระบบงานสารสนเทศทั้งหมดอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงเว็บไซต์ หรือระบบงานสารสนเทศ ให้มีความทันสมัย มีความปลอดภัยจากภัยคุกคามทางอิเล็กทรอนิกส์ และเพิ่มมาตรการป้องกันช่องโหว่

๖. การเปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินการ นโยบาย และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงาน ป.ป.ส. จะเปิดเผยนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหากมี การปรับปรุงแก้ไข สำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ป.ป.ส. www.oncb.go.th กรณี เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องการตรวจดูความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ สามารถขอตรวจดูได้ โดยติดต่อที่สำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เว้นแต่ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดเก็บรวบรวมไว้ตามประกาศคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดประเภทข้อมูลข่าวสารของราชการที่ไม่ต้องเปิดเผย

๗. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล

สำนักงาน ป.ป.ส. จะเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยผู้ขอกรอกแบบคำร้องขอและวัตถุประสงค์ของ การนำไปใช้ ณ ที่ทำการของสำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง และในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตาม กฎหมาย มีกาคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ข้อมูลส่วนบุคคล หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น สำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการบันทึกคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็น หลักฐานด้วย

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. อาจปฏิเสธคำร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีที่เป็นการปฏิเสธตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะ อันสามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ โดยจัดทำคำชี้แจงแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ

๘. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งทำหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต้องให้ความสำคัญและรับผิดชอบในการจัดเก็บและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนจัดเก็บตามแนวนโยบายและ แนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒

๙. การติดต่อกับสำนักงาน ป.ป.ส.

ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อติชมใด ๆ เกี่ยวกับแนวนโยบายและ แนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน ป.ป.ส. ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อได้ที่สำนักงาน ป.ป.ส.

ที่อยู่: เลขที่ ๕ ถนนดินแดง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ๑๐๔๐๐

โทรศัพท์: ๐ ๒๒๔๗ ๐๙๐๑-๑๙

โทรสาร: ๐ ๒๒๔๖ ๘๕๒๖, ๐ ๒๒๔๗ ๗๒๑๗

อีเมล: saraban@oncb.go.th

เว็บไซต์: www.oncb.go.th

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ตั้งอาคาร ๑ ชั้น ๑ สำนักงาน ป.ป.ส.